รีวิวเกม DOOM Nintendo Switch เกมยิงในตำนานฉบับพกพา

รีวิวเกม DOOM Nintendo Switch เกมยิงในตำนานฉบับพกพา

รีวิวเกม DOOM Nintendo Switch เกมยิงในตำนานฉบับพกพา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่าเป็นสิ่งเซอร์ไพรส์แฟนเกมทั่วโลก เพราะการมาของเกม Doom ภาคล่าสุดบน Nintendo Switch เพราะมันเป็นเกมที่เพิ่งวางขายเมื่อปีที่แล้วบน PS4 XboxOne และ PC ทำให้หลายคนคิดว่ามันไม่น่าจะสร้างบน Switch ที่มีสเปกด้อยกว่าได้

โดยเกม Doom ภาคใหม่ล่าสุดต้นฉบับอย่างที่บอกว่าออกบน PS4 , XboxOne และ PC ในปี 2016 เป็นการย้อนหลับไปสู่ความคลาสสิกของซีรีส์ Doom ที่เน้นการยิงศัตรู และการท่องไปในโลกที่เหมือนฝันร้ายในโลกของไซไฟผสมกับความลี้ลับ เกมมีการเล่าเรื่องที่รวดเร็วและไม่ได้ลงลึกอะไรมาก เพราะมันเน้นความเป็นเกมแอ็คชั่นที่มันส์สะใจกับความรุนแรงที่จัดเต็มดังนั้นเกมนี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีแน่

และแน่นอนว่ากราฟิกเป็นประเด็นแรกที่หลายคนอยากรู้ว่าในเมื่อมันถูกสร้างบนคอนโซลที่ไม่ได้แรงจะออกมาดูดีแค่ไหน และสัมผัสแรกบอกได้เลยว่าดูดีกว่าที่คาดไว้มาก เพราะผู้เขียนเองได้เล่นบน PS4 มาแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดูแย่จนเล่นไม่ได้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ภาพจะเบลอ เพราะความละเอียดเมื่อต่อทีวีจะอยู่แค่ 720p ตามข้อมูล ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าความละเอียดจริงๆเพียง 600p และเฟรมเรตอยู่ที่ 30 FPS ที่ลื่นไหลในระดับที่น่าพอใจ แม้จะมีแอบตกอยู่บ้างเมื่อเจอกับกองทัพศัตรูจำนวนมาก และเมื่อเราเล่นในโหมดพกพากราฟิกก็ยังคงดูดี

ระบบเสียงอาจจะเป็นส่วนที่ทั้งช่วยให้เกมสนุกมากขึ้นด้วยเพลงที่มาในแนว Rock ที่เข้ากับแนวเกม เสียงประกอบที่ใส่ความสะใจทั้งเสียงของปีศาจในเกม และเสียงปืน ที่ระเบิดกันแบบหนังแอ็คชั่น แต่เสียดายที่ระบบเสียงไม่ค่อยเสถียรเท่าที่ควร เพราะเวลาเจอศัตรูมากๆเสียงประกอบฉากกลบเสียงเพลงไปหมด  แถมยังมี Bug ที่เสียงเพลงประกอบอยู่ดีๆก็หายไปอยู่ แต่คาดว่าเดียวทีมงานจะออกตัวแก้มาในอนาคต

รูปแบบการเล่นก็อย่างที่บอกว่าเหมือนกับต้นฉบับที่เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เน้นความรวดเร็วของเกมเพลย์ และบน Nintendo Switch ก็ยังคงถ่ายทอดความมันส์จากต้นฉบับไว้ครบถ้วน โหมดเนื้อเรื่องจะแบ่งออกเป็นฉากและเราต้องออกค้นหาของในด่านเพื่อเปิดทางไปต่อ โดยเกมจะบอกว่ามันอยู่ตรงจุดไหนทำให้ไม่หลงทาง เกมใช้ระบบเก็บยาเพื่อเติมพลัง ไม่มีการฟื้นคืนเองเมื่อได้พักเหมือนเกมยิงยุคหลังๆ ซึ่งนอกจากพลังชีวิตแล้วใน Doom ยังมีค่าพลังชุดเกราะด้วย ส่วนการควบคุมบังคับทำได้ดีทั้งการใช้จอยเล่นทั้งต่อทีวีและแบบพกพา แถมยังรองรับระบบจับการเคลื่อนไหวของ Joy-con ที่ใช้การสะบัดจอยเพื่อโจมตีศัตรูในระยะประชิดด้วย

ฉากในเกมแม้ว่าจะไม่ได้กว้าง แต่ผู้สร้างใส่ความซับซ้อน และลูกเล่นแปลกๆที่ซ่อนอยู่มากมาย ผู้เล่นต้องสังเกตบวกกับการดูแผนที่ เพื่อหาทางไปต่อรวมทั้งเรายังสามารถกระโดดได้ทำให้มีการสร้างฉากที่เราต้องกระโดดไปตามพื้นผิวกันตลอด แม้ว่าไม่ได้แปลกอะไรแต่ก็ช่วยเสริมให้เกมมีมิติในการเล่นมากขึ้น โดยเฉพาะฉากที่บางส่วนออกแบบมาซับซ้อน และมีจุดให้ผู้เล่นตกใจกันไปตลอดเกม ซึ่งส่วนนี้มีมาตั้งแต่ต้นฉบับแล้ว

แม้ว่าเกมจะเน้นหนักไปที่ความเป็นแอ็คชั่นแต่ก็ยังไม่ทิ้งระบบอัพเกรดตัวละคร ที่ลงรายละเอียดพอตัว เพราะเราสามารถอัพเกรดได้ทั้งพลังชีวิต และชุดเกราะที่จะค่อยๆเพิ่มความสามารถของเราขึ้นเรื่อยๆ และยังมีระบบปรับแต่งอาวุธที่ทำได้หลากหลายมาก และจำเป็นต่อการเล่น เพราะตัวเกมไม่ได้ง่ายๆ แถมกระสุนในเกมก็มีจำกัดดังนั้นการยิงออกไปแต่ละนัดเราต้องคิดดีๆ โดยเรามีท่าเผด็จศึกที่จัดเต็มไปด้วยความรุนแรงชนิดต่อยหัวหลุด หรือฉีกตัวขาดเป็นสองท่อนด้วยเลื่อยไฟฟ้า รอให้คอเกมแอ็คชั่นได้สะใจแถมยังช่วยประหยัดกระสุนด้วย

ส่วนศัตรูในเกมมีลูกเล่นมากมายตั้งแต่พวกเดิมมาให้เราเชือดง่ายๆ มีพวกเล็งยิงระยะไกล และยังมีพวกอัดแรงชนิดโดนครั้งเดียวจอด เพราะขึ้นชื่อว่า Doom มันคงไม่ใช่เกมง่ายๆแน่  ผู้เล่นต้องใช้ทั้งความสามารถ และเลือกอาวุธใช้งานให้ถูกประเภท เรียกว่าส่วนนี้ยังคงเป็นความโดดเด่นของซีรีส์ ที่เน้นความโหดมันส์สะใจมาตลอด

และนอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วยังมีโหมดอาเขต ที่มีฉากที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมันส์ให้กับผู้เล่นโดยเฉพาะ แถมยังสามารถทำคอมโบในการเล่นเพื่อเก็บคะแนนได้ แน่นอนว่ายังคงมีความท้าทายให้สัมผัสกันเหมือนเดิม  ส่วน ระบบออนไลน์ก็เหมือนกับบนคอนโซลเครื่องอื่น แต่ที่ชอบมากคือ ความลื่นไหลในการเล่นที่แทบไม่มีการกระตุก แถมยังใช้เวลาไม่นานในการหาคนมาเล่นด้วยเรียกว่าเร็วที่สุดในเกมบน Switch ตอนนี้เลย หรือจะนัดเพื่อนมาเล่นด้วยก็ย่อมได้ ส่วนโหมดออนไลน์ที่ใส่มาก็มีทั้ง  team deathmatch , Domination, Soul Harvest , Warpath , Sector , Freeze Tag , Clan Arena และ Infernal Run ถือว่าเป็นเกมที่ลงคอนโซลนินเทนโด ที่ผู้สร้างจัดเต็ม ขนมาแบบไม่กั๊กและมีคุณภาพสูง ไม่เหมือนเกมบางค่ายที่ตัดทุกอย่างออกแต่ขายราคาเต็ม โดยผู้เล่นสามารถเก็บค่าประสบการณ์เพื่อปลดล็อกของในเกมได้

เอาเข้าจริงๆการมาของ Doom บน Nintendo Switch ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้พอสมควร แม้ว่าทั้งกราฟิกและเฟรมเรตที่ดูเป็นรองเวอร์ชั่นอื่น แต่ก็ไม่ได้ดูย่ำแย่จนรับไม่ได้ เพราะมันยังคงเป็นเกมยิงที่เน้นความรวดเร็วในการเล่นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคุณสามารถเอาไปเล่นนอกบ้านได้ทุกที่ทุกเวลา

ไม่พลาดข่าวสดใหม่ กดไลค์เพจแบไต๋เลย [รีวิวเกม] “DOOM” Nintendo Switch เกมยิงในตำนานฉบับพกพา was first posted on พฤศจิกายน 12, 2017 at 4:17 pm.©2017 "เว็บแบไต๋". Use of this feed is for personal non-commercial use only. If you are not reading this article in your feed reader, then the site is guilty of copyright infringement. Please contact me at beartaihitech@gmail.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook