ผิดที่คนหรือสังคมป่วย? จากคดีด่ากันในเกม ROV

ผิดที่คนหรือสังคมป่วย? จากคดีด่ากันในเกม ROV

ผิดที่คนหรือสังคมป่วย? จากคดีด่ากันในเกม ROV

ผมชักจะไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมคนทั่วไปรวมถึงผู้มีอำนาจบริหารในไทยจึงมองเกมส์ในแง่ลบ เพราะสังคมคนเล่นเกมของไทยเริ่มจะเกินเยียวยาขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่เห็นง่ายๆจากคดีล่าสุดของเกม ROV (Realm of Valor) ตามข้อมูลของเพจเฟสบุ๊คชื่อดังแห่งหนึ่ง ระบุว่ามีคู่กรณีสองคนด่ากันในเกม ROV แล้วไม่จบ ตามมาสืบประวัติ สืบที่อยู่จะตามเอาเรื่องถึงที่บริษัทถึงที่บ้าน ขู่ไปถึงลูกสาว จนสุดท้ายคู่กรณีที่ไปเริ่มด่าก่อนก็ต้องยอมขอโทษเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดหยุดตามเอาเรื่องและข่มขู่

ผิดที่คนหรือสังคมป่วย? จากคดีด่ากันในเกม ROV

แน่นอนว่าคดีดังกล่าวถือว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ เพราะฝ่ายตรงข้ามมีการตามสืบข้อมูลเพื่อคุกคามและข่มขู่ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ที่น่าเศร้าก็คือมีเกมเมอร์จำนวนมากที่โพสข้อความเห็นดีเห็นงามกับการด่ากันในเกม ว่ามันเป็นอรรถรส มันเป็นสีสัน มันเป็นเรื่องธรรมดา คนเล่นเกมเกมควรแยกแยะเกมกับชีวิตจริงออกจากกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเริ่มสงสัยว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จุดที่คนเล่นเกมในไทยคิดว่าการด่ากันในเกมมันเป็นเรื่องปกติ จะด่ากันอย่างไรในเกมก็ได้ โดยที่คนที่โกรธน่ะเป็นฝ่ายผิดเพราะแยกเกมกับชีวิตจริงไม่ออก

คำที่ว่าควรแยกเกมกับชีวิตจริงน่ะมันก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่มันไม่ได้หมายความว่าถ้าเป็นในเกมคุณจะมีสิทธิ์ที่จะไปเกรียนด่าว่าใครก็ได้ตามใจชอบ เพราะคนที่ถูกด่าถูกเกรียนใส่เขาก็รู้สึกโกรธเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการโดนด่าในเกมหรือโดนด่าในชีวิตจริงก็ตาม จะบอกว่าการโดนด่าในเกมนั้นไม่ควรโกรธก็ไม่ได้

ดังนั้นถ้าอยากจะให้สังคมในเกมดีขึ้น ก่อนอื่นเกมเมอร์จึงควรปรับแนวคิดใหม่ก่อนเกี่ยวกับสิทธิในการเล่นเกม ซึ่งเชื่อว่าเกมเมอร์ส่วนมากยังคงคิดว่าการด่าและดูหมิ่นบุคคลอื่นในเกมเป็นเรื่องปกติ เป็นสีสันของเกม ทำให้เกมสนุกขึ้น แต่คนเล่นเกมทุกคนนั้นล้วนมาจากต่างที่ต่างถิ่นต่างนิสัยกัน เขาไม่ได้คิดว่าการด่ากันในเกมเป็นเรื่องสนุกหรือเป็นสีสันทุกคนไป จึงควรใช้การพูดดีๆหรือสอนวิธีเล่นที่ถูกต้อง แทนการต่อว่าด่ากันจะดีกว่า

ด้วยเหตุนี้ก่อนที่จะไปดันให้ esports เป็นกีฬาในไทย เราก็ควรดันให้คนเล่นเกมควรมีน้ำใจนักกีฬากันก่อนไหม เพื่อสังคมเกมและภาพพจน์เกมที่ดีขึ้น หยุดคิดว่าการเกรียนการด่าเยาะเย้ยกันเป็นเรื่องปกติในเกม