การีนา ออนไลน์ เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพันธกิจ ‘Connecting the dots’

การีนา ออนไลน์ เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพันธกิจ ‘Connecting the dots’

การีนา ออนไลน์ เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพันธกิจ ‘Connecting the dots’
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การีนา ออนไลน์ เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพันธกิจ ‘Connecting the dots’ สู่ผู้นำการให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์ม

การีนาการีนา

1 มิถุนายน 2559 - บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มการสื่อสารและความบันเทิงที่เชื่อมต่อโลกสังคมออนไลน์ รวมทั้งการจัดการด้านการเงินและธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รุกขยายฐานลูกค้าด้วยการให้บริการผ่านการเชื่อมโยงสินค้าและบริการในโลกอินเทอร์เน็ต ภายใต้พันธกิจ 'Connecting the dots' สู่ความเป็นผู้นำการให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์ม ที่มีศักยภาพครอบคลุมพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอล

การีนาการีนา

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การีนา ออนไลน์ เริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2012 เริ่มต้นธุรกิจด้วยการให้บริการเกมออนไลน์ และช่องทางการสื่อสารสำหรับกลุ่มเกมเมอร์ พัฒนาต่อยอดความเชี่ยวชาญในฐานะบริษัทเกม สู่การเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทั้งบนระบบคอมพิวเตอร์พื้นฐานจนถึงสมาร์ทโฟนในยุคโมบายเฟิรส์ ทั้งบริการทางด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ หรือแอปพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ ปัจจุบันการีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) ประกอบธุรกิจ 3 กลุ่มคือ ดิจิตอลคอนเทนต์ (Digital Content) บริการช่องทางการชำระเงินออนไลน์ (Payment) บริการแอปพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce)

สำหรับกลุ่ม Digital Content เป็นที่ทราบกันดีว่าการีนาเป็นผู้นำในตลาดเกมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นพีซีเกมหรือโมบายเกม โดยให้บริการเกมที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น Point Blank, League of Legends, FIFA Online3 ฯลฯ ในปัจจุบันเรามียูสเซอร์ที่ลงทะเบียนในกลุ่มพีซีเกมอยู่ที่ 27 ล้านยูสเซอร์ เป็นโมบายเกมอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านยูสเซอร์ การีนายังคงพัฒนาการให้บริการเกมด้วยการมองหาเกมใหม่ๆที่ดี และมีความเหมาะสมกับความต้องการของผู้เล่นเกมในประเทศไทยอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทำให้การเข้าถึงเกมต่างๆทุกเกมของการีนามีความสะดวกมากขึ้นด้วยการให้บริการการีนาแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าเกม หรือดาวน์โหลด อัพเดทเกมใหม่ได้อย่างสะดวก รวมทั้งใช้ติดต่อสื่อสารได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังได้พัฒนาการให้บริการโปรแกรมความบันเทิงอย่าง TalkTalk ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ใช้สามารถรับชมดีเจเน็ตไอดอลแสดงความสามารถ และสื่อสารโต้ตอบระหว่างผู้ชมกับดีเจได้พร้อมกันแบบเรียลไทม์ ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งาน TalkTalk กว่า 10 ล้านคน นอกจากเรื่องของเกมและความบันเทิงแล้วการีนายังเดินหน้าสานต่อในการให้การสนับสนุนกีฬาอีสปอร์ตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้เล่นเกม ด้วยการจัดการแข่งขัน และส่งเสริมผู้เล่นเกมให้ก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันอีสปอร์ตทั้งในประเทศไทยและก้าวสู่เวทีแข่งขันระดับโลกต่อไป

การีนาการีนา

ในกลุ่ม Payment หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ AirPay เป็นบริการช่องทางการชำระเงินออนไลน์ทั้งในรูปแบบของเคาท์เตอร์ชำระเงินตามร้านค้าต่างๆ และพัฒนาสู่โมบายแอปพลิเคชั่น AirPay Wallet ที่เริ่มให้บริการมาจากการเติมเงินในเกม เติมเงินมือถือและพัฒนามาจนสามารถชำระค่าบริการต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคต่างๆ รวมไปถึงซื้อตั๋วหนัง ตั๋วรถบัส ตั๋วเครื่องบิน ไปจนถึงการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิ องค์กรการกุศลต่างๆ ปัจจุบันเคาท์เตอร์ของ AirPay มีให้บริการถึง 60,000 จุด โดยตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2016 เราจะขยายบริการเคาท์เตอร์ Airpay ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งในขณะนี้ AirPay เคาท์เตอร์มีสาขาอยู่ใน 916 อำเภอ จาก 926 อำเภอของประเทศไทย ในส่วนของแอปพลิเคชั่น Airpay Wallet มียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 810,000 ราย โดยแอปฯ Airpay Wallet สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS 

สำหรับกลุ่ม eCommerce การีนาได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Shopee แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์บนมือถือที่รวบรวมสินค้าไว้อย่างหลากหลาย สามารถซื้อขายได้ปลอดภัย และรวดเร็วภายใน 30 วินาที ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย และการการันตีว่าผู้ซื้อจะได้รับสินค้าอย่างแน่นอน ทำให้ผู้ซื้อมีความไว้วางใจในการใช้บริการที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้งนี้การที่ผู้ขายหรือร้านค้าออนไลน์จะประสบความสำเร็จได้นั้น

การีนาการีนา

นอกจากความโดดเด่นของสินค้าที่ขายแล้ว แพลตฟอร์มที่ใช้ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ร้านค้ามีระบบการบริหารจัดการที่ดี ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารการขาย รวมทั้งมีโปรโมชั่นที่ช่วยส่งเสริมให้ร้านค้าขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน Shopee มียอดการติดตั้งแอปพลิเคชั่นมากกว่า 2,000,000 ราย มีร้านค้ากว่า 30,000 ร้าน มีสินค้าหลากหลายประเภทมากกว่า 2 ล้านรายการ Shopee มีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้งานและขยายกลุ่มผู้ใช้บริการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ให้ร้านค้าต่างๆ มาออกบู๊ธ เพื่อให้ผู้ซื้อได้พบปะทำความรู้จักกับผู้ขาย การจัดการฝึกอบรมการทำธุรกิจ eCommerce ที่เรียกว่า Shopee University หรือการแจกโค้ดส่วนลดในการซื้อสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ Shopee ได้ร่วมกับไปรษณีย์ไทยในการจัดส่งสินค้าฟรีทั่วไทยสำหรับผู้ขายที่ลงทะเบียนขายสินค้าผ่าน Shopee สามารถดาวน์โหลด Shopee ได้บนอุปกรณ์ทั้งระบบ Android และ IOS

การีนามุ่งมั่นในการพัฒนากลุ่มธุรกิจทั้ง 3 ประเภทนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความต้องการที่ยังมองไม่เห็น หรือยังไม่มีใครสามารถตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้ ภายใต้การแข่งขันของตลาดดิจิตอล ที่ขณะนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ธุรกิจดิจิตอลต่างๆถึงแม้จะมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมากแล้วก็ยังต้องตื่นตัว และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายและโลกที่เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว นางสาวมณีรัตน์ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook