Final Fantasy VII Remake ระบุตัวเกมจะแบ่งออกเป็นหลายพาร์ท พัฒนาด้วย Unreal Engine 4

Final Fantasy VII Remake ระบุตัวเกมจะแบ่งออกเป็นหลายพาร์ท พัฒนาด้วย Unreal Engine 4

Final Fantasy VII Remake ระบุตัวเกมจะแบ่งออกเป็นหลายพาร์ท พัฒนาด้วย Unreal Engine 4
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Final Fantasy VII Remake ระบุตัวเกมจะแบ่งออกเป็นหลายพาร์ท พัฒนาด้วย Unreal Engine 4

Final Fantasy VII RemakeFinal Fantasy VII Remake

มีข้อมูลเพิ่มเติมจากเกม Final Fantasy VII Remake ภายหลังจากปล่อยคลิปใหม่โชว์เกมเพลย์ไปในงาน PlayStation Experience เป็นบทสัมภาษณ์โปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase และไดเรคเตอร์ Tetsuya Nomura จากนิตยสาร Famitsu และ Dengenki ของญี่ปุ่น มีรายละเอียดดังนี้

- ชื่อเกมภาคนี้ ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชื่อ Final Fantasy VII Remake อย่างเป็นทางการ เพื่อยืนยันว่าเป็นภาครีเมคจริงๆ ไม่ใช่ภาคเสริมหรือภาคต่อแบบที่ผ่านๆมา

- ตัวเกมมีการพัฒนาร่วมกับบริษัทอื่น อย่างเช่น CyberConnect2 (ที่สร้างเกมนารูโตะ) ที่ทั้งสองบริษัทสนิทกันดี ซึ่งคลิปเกมเพลย์ตัวล่าสุด CyberConnect2 ก็ช่วยทำให้ แต่เหมือนจะไม่ถูกใจ ไดเรคเตอร์ Tetsuya Nomura จนต้องมีการปรับใหม่

- ภาคนี้ไม่ได้มีการใช้โมเดลตัวละครจากภาค Final Fantasy VII: Advent Children เพราะเป็นโมเดลเก่านับ 10 ปีแล้ว แถมไทม์ไลน์ตัวละครก็คนละช่วงเวลาด้วย เลยปรับใหม่ให้ดูสมจริงกว่าเดิม

- คลิปตัวล่าสุดที่เห็นมาจากเกมเพลย์ทั้งหมด ยกเว้นบางฉากที่โยกมาจากเมื่อตอนงาน E3 ในเกมสามารถเปลี่ยนมุมกล้องได้อิสระแม้ในฉากรถไฟ

- ฉาก Cloud แต่งหญิง ยืนยันว่ายังมีแน่นอน แต่ยังไม่ได้พัฒนา

- ตัวเกมไม่ใช่แอคชั่นซะหมด ยังมีเกจ ATB อยู่ แต่ภาคนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้เต็มจึงจะโจมตีได้ เพียงแต่การโจมตีอาจถูกจำกัด ต้องระวังเมื่อเกจเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งคุณ Tetsuya Nomura คาดว่าจะใช้ชื่อใหม่กับระบบนี้

- ปาร์ตี้ในเกมเลือกได้ 3 ตัวละครเหมือนเดิม แต่จะบังคับได้ทีละตัว สามารถเปลี่ยนตัวที่จะบังคับได้

- เพราะฉากเกมทำใหม่หมด เลยจะมีฉากเมือง Midgar ใหม่ๆให้สำรวจมากขึ้น

- กราฟิกในคลิปนั้นยังไม่ใช่ตัวจริง เพราะทำเพื่อมาโชว์เท่านั้น คาดว่าของจริงจะทำให้เนียนกว่านี้

Final Fantasy VII RemakeFinal Fantasy VII Remake

นอกจากนี้คุณ Yoshinori Kitase ยังกล่าวว่า เกม Final Fantasy VII Remake ภาคนี้จะใช้การแบ่งขายตัวเกมเป็นหลายๆพาร์ท ซึ่งเป็นวิธีแบบเดียวกับที่เกมของค่าย Telltale Games ใข้กับเกมอย่าง Game of Thrones หรือ The Walking Dead คือแบ่งเป็น episodes ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้เผยเหตุผลที่ทำแบบนี้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะความจุเกมที่อาจมากเกินไปหากทำรวมไว้เป็นตัวเดียว ส่วนระบบการเล่นแม้จะเปลี่ยนไป แต่ยืนยันระบบที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Limit Break ยังอยู่แน่นอน และเนื้อเรื่องหลักๆก็จะอิงตามต้นฉบับด้วย

ปิดท้าย Final Fantasy VII Remake เลือกที่จะใช้เอนจิ้น Unreal Engine 4 ในการพัฒนา ซึ่งคุณ Yoshinori Kitase ให้เหตุผลที่เลือก Unreal Engine 4 เพราะได้การสนับสนุนที่ดีจากทีมงาน Epic Games ทำให้ทำงานง่าย และได้โมเดลเกมแบบยุคใหม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook