รีวิว Batman Arkham Origin อัศวินรัตติกาล

รีวิว Batman Arkham Origin อัศวินรัตติกาล

รีวิว Batman Arkham Origin อัศวินรัตติกาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

เมื่อครั้งก่อน ผมเคยคิดว่า เกมจากหนังหรือการ์ตูนมันไม่เคยเข้ากันได้ เพราะมักจะออกมาแย่ตลอด แม้แต่เกม Batman หลายๆภาคที่ผ่านมาก็ตาม กระทั่งผมได้รู้จักกับเกมนี้เข้า "Batman: Arkham Asylum" ที่พัฒนาโดย Rocksteady เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2009 แต่ผมเองเพิ่งจะรู้จักได้เพียงปีเดียวเท่านั้น เพราะว่าผมยังมีอคติกับเกมจากการ์ตูนและหนังอยู่กระทั่งได้ไปพบกะวิดีโอ Gameplay จากเกมนี้เข้าโดยบังเอิญ จึงลองหามาเล่นและหลงรักซีรี่ย์นี้และทีม Rocksteady เลยนับแต่นั้น กระทั่ง WB Montreal ประกาศข้อมูลเกม Batman: Arkham Origins ออกมา ผมก็เริ่มสงสัยแล้วว่าทีมนี้จะทำงานกันได้ดีสักแค่ไหน เพราะว่าผลงานของทีมนี้นั้น ถ้าเอาจริงๆแล้วมีเพียงชิ้นเดียวคือการพอร์ต Arkham City ลง Wii U แล้วเพิ่มชุด Armour เข้าไปก็แค่นั้น กระทั่งวันที่เกมออกไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมก็ได้สัมผัสมันในที่สุด และถึงแม้ทีมนี้จะมีผลงานเพียงชิ้นเดียวออกมาเท่านั้น และนี่คือชิ้นที่สอง กระนั้นก็ได้แสดงถึงความสดใหม่และพิถีพิถันของชิ้นงานได้เป็นอย่างดีเลยครับ จะเป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน

เกม : Batman: Arkham Origins

ผู้พัฒนา : WB Games Montreal , Splash Damage

ผู้จัดจำหน่าย : Warner Bros. Interactive Entertainment

วันวางจำหน่าย : 25 ตุลาคม 2013

แนวเกม : Action , Adventure

ก้าวแรกสู่หน้าเมนู

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

เมื่อผมเข้าเกมมาครั้งแรกนั้น สิ่งแรกที่ผมเจอเลยก็คือ “หน้า Intro” บอกว่าใครพัฒนาใช้โปรแกรมอะไรบ้างบลาๆๆ ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่นักเพราะแทบทุกเกมก็มีการแนะนำแบบนี้ แต่ที่น่ารำคาญคือความยาวของมันที่มากกว่าสองภาคก่อนรวมกันเสียอีก คือแบบว่ามันจะแนะนำนานไปไหน ขึ้นทุกรอบที่กดเข้าเกม แถมข้ามไม่ได้อีกต่างหาก ตรงนี้ผมขออนุญาตินับเป็นข้อเสียเลยก็แล้วกัน บางทีก็น่าจะเร็วกว่านี้หน่อยไม่ก็ข้ามได้อ่ะนะ พอเข้ามาถึงหน้าเมนูแล้วผมก็เจอกับหน้าเมนูที่สีสันดีไซน์สวยแต่ค่อนข้างจะธรรมดาไปนิดหน่อย ตรงนี้แล้วแต่คนจะชอบครับ แต่ผมชอบนะ มันดูเข้ากับยุคของเกมนี้ดี ยิ่งประกอบกับภาพด้านหลังแล้วเข้ากันสุดๆเลยล่ะครับ ลืมไปข้อ ตัวเกมให้เซฟมาถึง 4 save เหมือนสองภาคก่อนๆเด๊ะเลยครับ

ทีนี้มาถึงอีกข้อเสียหนึ่งกันบ้าง ก่อนที่ท่านจะได้เข้าเกมนั้นแน่นอนว่าเกมนี้เป็นของ Warner Bros. ดังนั้นเกมก็จะต้องการ WBID ในการเข้าเล่นครับไม่ว่าท่านจะใช้ Steam หรือสั่งซื้อแบบแผ่น Retail มาก็ตาม แถมถ้าเน็ตหลุดคุณก็จะไม่สามารถเล่นเกมนี้ได้ต่ออีกต่างหาก ตรงนี้ผมดูแล้วมันไม่ต่างจาก Uplay ดีๆนี่เองเลยล่ะครับ น่าจะ Steamworks ไปเลยนะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ WB เอ้ย

สู่เมือง Gotham อันยิ่งใหญ่

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

กราฟิคโดนรวมภายในเกมนั้นจัดว่าค่อนข้างงามเอามากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแสงสีต่างๆ แถมเก็บรายละเอียดได้ดีในหลายๆจุด ทั้งหิมะที่จะมีรอยเท้าเกิดขึ้นเมื่อมีคนไปเหยียบ หรือรอยขีดข่วนต่างๆที่เกิดจากการสู้รบตรบมือกับเหล่าร้าย แม้กระทั่งผ้าคลุมด้านหลังที่ถ้าผู้เล่นเล่นจนจบแล้วนั้นจะเห็นได้ว่าสภาพผ้าคลุมของ Batman นั้นเข้าขั้นเละไม่มีชิ้นดีเลยทีเดียว ตรงนี้นับว่าเป็นการแสดงฝีมือให้ชาว Batman ทุกคนได้ประจักษ์ว่าไม่ต้อง Rocksteady ก็ดีได้เลยล่ะครับ กระนั้น Texture ภายในเกมนั้นกลับดูกลวงๆไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมากนัก หนักไปในทางไม่ค่อยสวยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ผมตั้ง Graphic ระดับ Medium แท้ๆ แต่ Texture โดยรวม Arkham City สวยกว่า (อันนี้เงิบ) ถึงอย่างงั้นผมก็ต้องบอกเลยครับว่ากราฟิคเกมนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว

ส่วนตัวเมือง Gotham เองนั้นทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมาก เก็บรายละเอียดดีสุดๆ ตรงตามแบบฉบับการ์ตูนเปี๊ยบ ทั้งโซนเก่าจาก Arkham City ที่เอามาโมใหม่ซะจำแทบไม่ได้ และโซนใหม่ New Gotham ที่อลังการสุดๆ ตึกรามบ้านช่องยิ่งใหญ่สมเป็นเมืองใหญ่อย่างแท้จริง แน่นอนว่าข้อเสียก็ตามมาอยู่เช่นเดิม เพราะดูเหมือนว่าจะยังเร็วเกินไปที่จะสร้างเมือง Gotham ให้ยิ่งใหญ่เหมือนการ์ตูน เพราะว่าในเมื่อมันเป็นเมือง Gotham แล้วมันก็ต้องมีประชาชนใช่ไหมล่ะครับ แต่เกมนี้กลับมีเพียงแค่ตำรวจ กุ๊ยข้างถนน และลูกกระจ๊อก Black Mask เท่านั้น ทำให้มันดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงแค่ Arkham City ที่ถูกขยายเขตให้กว้างขึ้นซะมากกว่า ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังอยู่ในเมือง Gotham อันยิ่งใหญ๋เท่าไหร่นัก แต่ผมให้อภัยละกัน เพราะเทคโนโลยีมันยังมีขีดจำกัดอยู่นั่นแหละ แต่ถ้ายืม RAGE ของ Rockstar มาใช้อันนี้ผมว่าได้เห็นอย่างแน่นอน เมือง Gotham อันมีสีสัน ฮา

8 นักฆ่าว่อน Gotham

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

เนื้อหาภายในเกมนั้นจะเป็น Prequel นั่นหมายถึงว่าเกิดขึ้นก่อนสองภาคก่อนครับ ถ้าเอาตรงๆ มันคือภาคต่อของการ์ตูน Batman: Years One ดีๆนี่เองประมาณว่า Black Mask ได้ทำการบุกคุก Blackgate เข้าไปเพื่อตามหา Commisionner Loeb ซึ่งเข้าไปทำอะไรนั้นไม่สปอยนะ แต่แน่นอนว่าถึงขั้นบุกไปคุกขังนักโทษระดับอาชญากรงี้มีหรือที่ Batman จะนั่งเตรียมไก่งวงมากินในวันคริสต์มาส ก็ต้องออกตามล่า Black Mask น่ะสิครับแหม่ และ Batman ก็ดันไปเจออะไรเข้า ทำให้ทราบต่อมาว่า Black Mask กำลังตั้งค่าหัว Batman เป็นมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ ให้กับใครก็ตามที่สังหาร Batman ลงได้ และจะคูณสองให้กับคนที่ทรมาน Batman สำเร็จด้วย งานนี้ Batman โดนหนักแน่นอน เพราะว่า Batman เริ่มทำงานเพียงสองปีก็โดนหนักขนาดนี้แล้ว ก็ยังอุตส่าห์มีดารารับเชิญหลายๆคนด้วยทั้ง Joker ที่ Batman เพิ่งจะรู้จักเป็นวันแรก , Mad Hatter นักสะกดจิตที่บ้านิยาย Alice เป็นบ้าเป็นหลัง , Anarky ไอหนุ่มเรียกร้องหาความยุติธรรมและความโปร่งใสด้วยการไล่วางระเบิดทั่ว Gotham , Enigma หรือ The Riddler ที่มาพร้อมกะปริศนาชวนมึนพร้อมของสะสมให้หากันหน้าตั้งเหมือนเดิม และอีกมากมายให้ผู้เล่นและ Batman ได้วิ่งไล่จับกันปวดตับเล่นเลยล่ะครับ เหนื่อยแทน Batman เลยแฮะ ฮา

เนื้อเรื่องภายในเกมนั้นโดยรวมแล้วต้องเลยครับว่าทำมาได้ดีมาก เทียบเท่ากับมาตรฐานของสองภาคก่อนที่ทำเอาไว้ซะสูงเลยล่ะครับ แต่ว่าช่วงกึ่งกลางเกมจนเกือบท้ายเกมนั้นทำมาได้น่าเบื่อมาก จะมาตื่นเต้นชวนติดตามต่อก็อีตอนเจอ Bane นี่ล่ะ และนี่คืออีกหนึ่งข้อเสียที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย คืออุตส่าห์นั่งโปรโมท Deathstroke มาตั้งนาน โชว์การตอสู้สุดอลัง แต่สุดท้าย กลับมีบทน้อยกว่า Bane ซะอีก นั่นทำให้บางครั้ง ผมรู้สึกว่าน่าที่จะโปรโมท Bane ไปเลยจะดีกว่า ดีไม่ดีเปลี่ยนชื่อเป็น The Dark Knight Rise Video Games ไปเลยก็ดี เนื่องจากว่าเนื้อเรื่องช่วงท้ายนั้นมันแทบไม่ต่างอะไรกับ Dark Knight Rise เลยล่ะครับ ตรงนี้สร้างความผิดหวังให้ผมเป็นอย่างมาก เพราะว่าทั้ง Deathstroke และ Deadshot ที่เปิดตัวก่อนใครนั้นรวมกันแล้วบทน้อยกว่า Bane ด้วยซ้ำไป แถมเอา Deadshot กับ Lady Shiva ไปอยู่ใน Side Mission ทั้งๆที่เป็น 8 นักฆ่าหลักซะอีก สรุปว่าเนื้อเรื่องดีแต่การเล่าเรื่องรวมๆล้มเหลวครับ ทำการบ้านมาใหม่นะ WB Montreal

ต่อสู้มันส์ ลอบเร้นเจ๋ง

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

ระบบต่อสู้นั้นยังเหมือนเดิม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากภาค Arkham City เลยครับ ทั้งในเรื่องของ Animation ต่างๆตอน Counter และใช้ท่า Combo Takedown ต่างๆ ทั้งหมดนั้นเหมือนเดิมครับ แต่ก็มีการปรับปรุงที่ดีขึ้นนิดหน่อย ทั้งท่า Ground Takedown และท่า Counter บางท่าที่ทำให้มันสมจริงมากขึ้น แต่บางท่าก็เวอร์เกินมนุษย์เหมือนเดิม (ยกตัวศัตรูขึ้นแล้วเตะกลางอากาศ ไม่มีใครบนโลกทำได้หรอกครับ) ทั้งนี้ก็เพื่อความมันส์เป็นหลักนั่นแหละ แถมยังปรับปรุง AI ในฉากต่อสู้ที่โหดมากขึ้นด้วย เพราะว่าลูกกระจ๊อกต่อยเร็วขึ้น พร้อมศัตรูอีกหลากชนิดที่เพิ่งเข้ามา ทั้งพวกที่ถูกฝึกฝนในการต่อสู้มาอย่างดีแบบ Martial Artist  พวกลูกน้อง Bane ที่ใช้ Venom กระทั่งพี่เบิ้มติดเกราะจาก Black Mask เหล่านี้ล้วนเพิ่มความท้าทายให้อีกเป็นกอง ดังนั้นผมให้ผ่านเลยครับ ส่วนระบบ Predator นั้นก็เหมือนเดิม AI โง่เหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรท้าทายเพิ่มเลยครับ และดูจะให้ความสนใจน้อยลงมากเลยเสียด้วย ใครที่เก่งมาจากภาคก่อนก็ไม่ต้องปรับตัวแบบภาคนี้แต่อย่างใด เล่นไปเลยครับ สบายๆ

ในส่วนของ Gadget อุปกรณ์เสริมของ Batman นั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่น่าผิดหวังด้วยเช่นกัน เพราะว่าถ้าพูดกันตามตรงนั้น มันก็คืออุปกรณ์ที่ Reskin มาจากภาคก่อนทั้งนั้นครับ Remote Claw ที่ตัวเกมนำเสนอนั้นก็ดูใหม่บ้างในเรื่องการนำไปใช้ใน Predator แต่ถ้าเอามาใช้เดินทางล่ะก็ Line Launcher ดีกว่าครับ (มันคือสาเหตุหลักที่ Batman โยนทิ้งและใช้ Line Launcher ในภาคต่อๆมา) Glue Grenade ระเบิดกาวที่ให้ผลเหมือนกับ Freeze Blast เด๊ะๆ และ Multi Batarang ที่ดูจะไร้ประโยชน์สุดๆเนื่องจากคุณมีท่า Quick Fire Batarang แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้มันแต่อย่างใด ก็มีเพียงแต่ Conclusion Detonator ที่ใหม่เพราะทำให้ศัตรูสตั๊น… แต่ใช้ปุ่ม – โน่น กดยากอีก เวรกรรรม และ Shock Gloves ที่ใหม่สำหรับชาว PC และ Console แต่ WiiU คงชินชามาตั้งแต่ภาค Arkham City แล้ว เอาเป็นว่า Gadget ก็สอบตกตามเนื้อเรื่องไปครับ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ส่วนการต่อสู้กับบอสภายในเกมนี่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยครับ ตัวเกมทำออกมาได้ดีมากๆ ดีเสียกว่าภาคก่อนซะอีก ทั้งฉากต่อสู้กับ Deathstroke ก็ดี หรือฉากสู้กับ Bane ก็ดี พวกนี้ล้วนได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำให้การต่อสู้กับบอสในเกมนั้นไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่นิดเดียวครับ เพราะบอสแต่ละตัวใช้วิธีปราบไม่เหมือนกันเลยล่ะ ถ้าจะหาอะไรที่ไม่เหมือนภาคก่อนก็ต้องระบบสู้กับบอสนี่แหละ ทั้งยาก ท้าทาย และไม่ซำซาก Perfect ครับ

มาพูดถึงระบบ Upgrade กันบ้าง นี่ก็เป็นอีกจุดที่แสดงให้เห็นความสดใหม่ของเกม เพราะว่าอัพเกรดในครั้งนี้มากถึง 57 อัน! อัพกันมันส์มือกันเลยล่ะครับ ส่วน Point ที่จะเอามาใช้อัพเกรดนั้นก็เอามาจากการไล่เตะตูดเหล่าร้าย หาของสะสมในเกม หรือเคลียร์ภารกิจในเกม เมื่อทำอะไรสำเร็จแล้วก็จะได้ XP มาเป็นของตอบแทนครับ พอ XP ถึงที่กำหนดแล้วเราก็จะเลเวลอัพและได้ Point มาอัพเกรดตัวเราครับ ส่วนบางอัพเกรดนั้นเราจะไม่สามารถปลดล็อคได้ด้วยการใช้ Point ในการอัพเกรด แต่จะต้องทำ Challenge ที่เรียกว่า Dark Knight Challenge แทน ซึ่งไอ Dark Knight Challenge เนี่ยจะแบ่งเป็น 4 หมวดด้วยกัน คือ Shadow Vigilante ว่าด้วยการต่อสู้ Gotham Protector ว่าด้วยการสำรวจ Worst Nightmare ว่าด้วยการลอบเร้น และ World’s Greatest Detective ว่าด้วยการค้นหาข้อมูลและแก้ปริศนาคดีต่างๆครับ เมื่อผู้เล่นทำ Dark Knight Challenge อันใดอันหนึ่งถึงระดับหนึ่งๆแล้วก็จะได้รับอัพเกรดใหม่ๆครับ อันนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะทำให้ Challenge ไม่ดูไร้ค่ามาก แถมทำครบสี่หมวดจะได้ Skin ใหม่ด้วย นับว่าคุ้มค่าที่จะทำเลยล่ะครับ

ของสะสมเต็มเมือง เดินหาจ้าละหวั่น

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

มาถึงส่วนที่น่าเหนื่อยใจกันบ้างกับ Side Mission ซึ่ง Side Mission ภายในเกมนั้นถ้าเป็นหัวข้อใหญ่เรียกว่า Most Wanted ส่วนพวกที่เกิดขึ้นแบบ Random สุ่มคือ Crime In Progress เราจะพูดถึง Crime In Progress กันก่อน สำหรับ Crime In Progress นั้นจะแยกไปอีกถึงสองแบบ คือแบบจำกัดหรือ Crime Scene แบบนี้จะเป็นภารกิจที่จะให้เราไปทำการไขคดีปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างบลาๆ ซึ่งทำออกมาได้ดีกว่าภาคก่อนๆมากเลยล่ะครับ น่าเสียดายที่มีเพียง 8 ภารกิจเท่านั้นไม่นับอันนึงของเนื้อเรื่องหลักและอีกอันจากภารกิจ Most Wanted ส่วนอีกแบบคือ Crime In Progress พวกนี้จะเกิดแบบสุ่มเวลาและไม่จำกัดครับ นั่นหมายความว่ามันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุดนั่นแหละ ยิ่งทำก็ยิ่งได้ XP ไปอัพเกรดมากขึ้นอะไรแบบนั้น มันก็ไม่ได้มีอะไรหลากหลายสักเท่าไหร่ นอกจากการตีกันระหว่างกุ๊ยกับสมุน Black Mask , กุ๊ยล้อมตำรวจเอาไว้จนตำรวจทำไรไม่ได้ และนักเลงข้างถนนกระทืบคนไร้บ้านอาศัย ทั้งหมดสามอย่างนี้จะเกิดขึ้นวนไปวนมาและจะสุ่มจุดที่จะเกิดครับ แรกๆก็โอเคสดใหม่อยู่หรอกแต่หลังๆจะเริ่มน่าเบื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ก็มันวนซ้ำไปซ้ำมาใครบ้างล่ะจะไม่เบื่อ ฮา ไม่ได้เหมือนกับที่ Eric Holmes พูดไว้เลยแม้แต่นิดเดียว (คราวนั้นพี่แกโม้มากเลยว่าภารกิจ Crime In Progress มีมากกว่า 10 แบบ ไหนล่ะสิบแบบ ห้าแบบยังไม่ถึง) เสียความรู้สึกมากครับในจุดนี้

มาถึง Most Wanted กันบ้าง สำหรับ Most Wanted นั้นมันก็คือ Side Mission ดีๆนี่เองแหละ โดยรวมก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยล่ะครับ โดยเฉพาะของ Enigma ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ มีของให้สะสมบานตะไทถึง 200 ชิ้น แถมยังต้องไปไล่เปิดเสาอีกเจ็ดเสาเจ็ดเขตในเกมเพื่อใช้ Fast Travel และยังต้องไปทำลาย Network Relay อีก 70 จุดในเกมอีกถึงจะสมบูรณ์ Most Wanted ของ Enigma เรียกได้ว่ากว่าจะทำได้หมดนี่ใช้เวลาเยอะกว่านั่งเคลียร์เกมอีกครับ ฮา แต่ขอติเสาหน่อยเถอะ คือมันเห็นกันชัดๆเลยล่ะครับว่าทำไม่เสร็จ เนื่องจากบางเสานั้นทำออกมาได้ดีพอตัวเลยทีเดียว แต่บางเสานั้นทำมาลวกๆเท่านั้น ถือว่าขาดการขัดเกลาอย่างแรงเลยล่ะครับ เหมือนงานลวกๆทำออกมาให้มันเสร็จไปงั้นๆ ยังไม่หมด ยังจะมีบัคสำหรับบางเสาอีกต่างหาก ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมผ่าน QC มาได้อย่างไร แย่สุดๆไปเลยครับในจุดนี้

ขออนุญาติแยก Multiplayer มาเป็นหัวข้อเล็กๆสั้นๆก็แล้วกันครับ สำหรับ Multiplayer นั้นพัฒนาโดย Splash Damage ที่พัฒนา Brink นั่นแหละ แต่ ณ เวลานี้ยังมีบัคในเรื่องของ Multiplayer ที่ทำให้ตัวเกมไม่ยอมเซฟสิ่งที่เราได้ทำลงไปทั้งเลเวลและ Loadout ในเกม ทำให้ผมไม่สามารถอธิบายอะไรได้มาก กระนั้นระบบโดยรวมก็ทำออกมาได้ดีครับ โดยตัวเกมจะแบ่งฝั่งเป็นสามฝั่ง Joker 3 ,Bane 3 และ Batman กับ Robin อีกสอง รวมกันเป็นแปดคนต่อห้อง กติกาก็ประมาณว่า Joker กับ Bane ต้องแย่งยึดครองจุดกันไปเรื่อยๆเพื่อทำแต้ม พร้อมกับจัดการศัตรูจนถึงจำนวนที่กำหนดไปด้วย ระหว่างนั้น Batman กับ Robin ก็ต้องจัดการพวก Joker และ Bane เพื่อรวบรวมค่า Panic ถ้าค่า Panic สูงสุด Batman ชนะครับ ง่ายๆแค่นี้แหละ ก็สนุกดีนะครับถ้าพูดถึง แต่ยังไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่นัก ยังไงก็ติดตามกันต่อไปครับ

เสียงไพเราะ เพลงประกอบพริ้ง

เสียงภายในเกมนั้นทำออกมาได้ดีมากๆครับทั้งในเรื่องของเสียงต่อยเตะต่างๆนาๆ ทำออกมาได้ดีมากๆ ดูสมจริงไปอีกแบบ ส่วนเพลง Soundtrack ภายในเกมเองก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เข้ากับยุคธีมของเกม แต่ไม่ชวนติดหูเท่ากับภาค Arkham City เท่าไหร่นัก อันนั้นดูมีพลังกว่ามากเลยล่ะครับ ตรงนี้ให้ผ่านไปอย่างเฉียดฉิวก็แล้วกัน

บทสรุป

Batman Arkham OriginsBatman Arkham Origins

มาสรุปกันเลยดีกว่า เพราะดูเหมือนว่าผมจะเขียนมาเยอะพอสมควรละ โดยรวมแล้วเกมทำออกมาได้ดีมากครับทั้งในเรื่องของเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ แต่หลายๆอย่างยังไม่ดีนักทั้งในเรื่องของการเล่าเรื่องที่ทำได้น่าเบื่อพอ สมควร , Side Mission ที่ซ้านสั้นถ้าไม่นับ Enigma และการขาดการขัดเกลาในหลายๆจุดทำให้เกมนี้แม้จะดีแต่ก็ไม่น่าจะเป็น GOTY สำหรับปีนี้ได้อย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าให้เวลากับผม ผมก็ยังจะเสียเวลากับเกมนี้อยู่ดีล่ะนะ ฮา

เกมนี้เหมาะกับใคร เหมาะกับผู้ที่ชอบเกมที่ครบเครื่องทั้งต่อสู้และลอบเร้น ผู้ที่ชอบเกมแนวฮีโร่เตะก้นอธรรม และแฟนๆ Batman รวมไปถึงแฟน DC ทุกคน

เกมนี้ไม่เหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับคนที่ไม่เคยเล่นสองภาคแรกหรือเล่นไม่จบเท่านั้นแหละครับ

ข้อดี

  • เนื้อเรื่องโดยรวมทำได้ดีมาก
  • ตัวละครทุกตัวทำออกมาได้น่าจดจำ
  • เกมเพลย์ที่คงเดิมและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
  • กราฟิคสวยงาม เก็บรายละเอียดของเมืองได้ดี
  • Most Wanted ที่สนุกใช้ได้
  • ของสะสมเยอะ วิ่งหาหน้าตั้งเช่นเดิม
  • อัพเกรดเยอะและสดใหม่
  • บอสโหด สนุก และไม่น่าเบื่อ
  • เสียงในเกมทำได้ดี
  • Multiplayer มันส์พะยะค่ะ

ข้อเสีย

  • มีบัคแทบทุกหย่อมหญ้า
  • วัตถุหรือสภาพแวดล้อมในเกมบางอย่างเหมือนทำออกมาลวกๆ
  • การเล่าเรื่องแสนน่าเบื่อในบางจุด
  • เอา 2 ใน 8 นักฆ่าไปใส่ Most Wanted ทั้งที่น่าจะเอามาใส่ในเนื้อเรื่องหลัก
  • Texture บางจุดเละไปหน่อย
  • DLC ออกแต่ Skin Pack กับ Challenge เป็นหลัก ทำให้ดูหน้าเลือดไม่ใช่เล่น
  • WBID ที่ถ้าเน็ตหลุดก็เล่นต่อไม่ได้
  • Soundtrack ไม่ติดหู
  • ระบบ Predator ถูกหลงลืมเพราะทั้งเกมมีให้เล่นไม่ถึงยี่สิบฉาก (Arkham City เยอะกว่าอีกนะ)

ผมให้ 8/10 ครับสำหรับเกมนี้ เพราะแม้จะออกมาได้ดีแต่ยังต่ำกว่ามาตรฐานที่ Rocksteady ทำเอาไว้ซะสูงเลยละครับ ยังไงก็คงต้องติดตาม WB Montreal กันต่อไปเพราะดูท่าอนาคตไกลพอตัวเลยล่ะครับ ตอนนี้ Steam ขายในราคา 49.99 USD ก็นับว่าแพงใช่เล่น แต่ถ้าท่านเป็นคนที่มองหาเกมที่ครบเครื่องในทุกด้านหรือชอบ Batman เป็นทุนเดิมแล้วล่ะก็ นี่คือคำตอบของคุณครับ ลาไปก่อนครับ สวัสดี

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ รีวิว Batman Arkham Origin อัศวินรัตติกาล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook