วิเคราะห์ฟันธง Wii U คอนโซลตัวใหม่จาก Nintendo งานนี้จะร่วงหรือรอด

วิเคราะห์ฟันธง Wii U คอนโซลตัวใหม่จาก Nintendo งานนี้จะร่วงหรือรอด

วิเคราะห์ฟันธง Wii U คอนโซลตัวใหม่จาก Nintendo งานนี้จะร่วงหรือรอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

 

 นับเป็นเวลา 1 ปีแล้ว หลังจากงาน E3 2011 ที่ทาง Nintendo ได้ตัดสินใจเปิดตัวเครื่องเล่น Console ตัวใหม่ล่าสุด Wii U ซึ่งเป็นการชิงเปิดตัวก่อนทาง Sony และ Microsoft สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ Nintendo ไม่ใช่น้อย จนมาถึงในงาน E3 2012 ที่พึ่งจบไปนี้ ทาง Nintendo ก็ทำตามที่เคยสัญญาไว้ เผยโฉมตัวจริงของเครื่อง Wii U และตัว Controller พร้อมเกมต่างๆ ที่เตรียมลงมากมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเกม Exclusive หรือเกม Multiplatform 

 

จากความสามารถของตัวเครื่อง ในที่สุด Nintendo ก็ทำ Console ที่มากับขุมพลัง Graphic ที่แรงและรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 1080p กับเขาเสียที ด้วยความสามารถของเครื่องที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกม Multiplatform ต่างๆ มีความสนใจที่จะทำเกมลงบนเครื่อง Wii U ด้วย ยกตัวอย่างเกมที่คอนเฟิร์มแล้วเช่น Assassin Creed 3, Mass Effect 3, เป็นต้น เป็นสัญญาณที่ดีว่าทาง Wii U จะได้ Third Party รายใหม่ๆ ที่ทำเกมสำหรับ Hardcore Gamer มาไว้ในครอบครอง

แน่นอนว่าทาง Nintendo นั้นย่อมไม่ทิ้งรูปแบบการเล่นเกมอันหลากหลายที่ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญอย่างแน่นอน เมื่องาน E3 2011 ตอนพึ่งเปิดตัวใหม่ๆ เขาให้ความสำคัญกับ Controller ฝังหน้าจอมากกว่าตัวเครื่องเสียอีก ซึ่งตอนนั้นก็มีอยู่หลายคนที่ไม่ได้เห็นโฉมหน้าตัวเครื่องเลยด้วยซํ้า เจ้า Gamepad ฝังหน้าจอทัชสกรีนที่ดูแสนธรรมดานี้ถือว่าตอบโจทย์รูปแบบการเล่นแบบหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดเราเล่นเกม RPG เราก็สามารถปรับแต่งตัวละคร, อัพสกิล, โดยไม่ต้องทำการ Pause เกม ราวกับว่าเป็นการรวมตัวของเครื่อง Console และระบบ 2 หน้าจอของ Nintendo DS, 3DS ไว้ด้วยกัน ถ้ามีเกม Multiplatform ระหว่าง PS3, Xbox 360 และ Wii U ก็ไม่แน่ว่า Wii U อาจจะเป็น Platform ที่สมบูรณ์ที่สุดก็เป็นได้

Wii U Pro Controller


 นอกจากนั้นเจ้า Gamepad ยังฝังกล้องไว้ 1 ตัวพร้อมไมโครโฟนอีกต่างหาก อันนี้ต้องบอกว่าน่าชื่นชม เพราะผู้เล่นสามารถ Video Call ได้โดยไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มเติม รวมไปถึงการพูดคุยระหว่างการเล่นเกมในโหมด Online โดยไม่ต้องต่อไมโครโฟนโยงไปโยงมาให้รกรุงรังแต่อย่างใด และนอกเหนือจาก Gamepad ตัวนี้ ทาง Nintendo ก็ยังมี Wii U Pro Controller หน้าตาละม้ายคล้าย Controller ของ Xbox 360 ออกมารองรับเกมที่ไม่ต้องใช้รูปแบบการเล่นมากมายให้ได้เล่นกันอย่างสบายๆ รวมถึงรองรับอุปกรณ์จากเครื่อง Wii อาทิเช่น WiiMote, Nunchucks, Balance Board รวมไปถึง Wii LAN Adapter อีกด้วย

กลุ่มเป้าหมายหลัก ไม่ต่างจาก Wii

กลุ่มเป้าหมายของ Wii U ยังคงค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นกลุ่ม Casual Gamer, ครอบครัวเหมือนกับเครื่อง Wii ที่ชอบรูปแบบการเล่นเกมอันหลากหลายจากความสามารถเครื่อง Console และ Nintendo ก็เป็นเทพเจ้า Party Games นับว่าทาง Nintendo ค่อนข้างฉลาดที่ไม่เข้าปะทะกับ Sony และ Microsoft โดยตรง แต่ไปหากลุ่มเป้าหมายอื่น กินคนเดียวสบายใจเฉิบ แถมงานนี้จะขอเข้าไปกระแซะกลุ่ม Hardcore Gamer ที่บูชาเนื้อหาเกมและ Graphic กันอีกด้วย แต่ก็คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่กับเกมที่มี Content รองรับ Gamepad เยอะๆ ไอ้การที่ต้องมาถือ Controller นํ้าหนักครึ่งกิโลกรัมเพื่อเล่นเกมไม่ว่าจะเป็นการแกว่งไปมา มันก็คงจะลำบากเกินไปสำหรับเกมเมอร์วัยทำงานหรือเกมเมอร์ที่เล่นเกมเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้า สู้นอนถือ Controller ธรรมดาๆ เอนหลังบนโซฟา สบายกว่าตั้งเยอะ ทาง Xbox 360 ของ Microsoft ซึ่งมีเจ้า Kinect เขาได้แยกกลุ่มไว้ชัดเจน ใครที่อยากสนุกสนานกับรูปแบบการเล่นเกมแปลกใหม่ ก็ซื้อ Kinect ไป ส่วนใครขี้เกียจก็ไม่ต้องซื้อ แต่ของทาง Nintendo นั่นมันมีมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเกมไหนๆ ก็สามารถทำ Content ของเกมให้ซัพพอร์ตกับความสามารถของ Gamepad ได้ ทำให้ผู้เล่นตัดสินใจเลือกเกมได้ยากขึ้น ถ้าเป็นเกมเดียวกันแต่มี Platform อื่นๆ ผู้เล่นที่ไม่ชอบรูปแบบการเล่นเกมอันหลากหลายก็อาจจะตัดสินใจเลือก Platform อื่น

 มาดู ปัจจัยทางด้านราคา กันบ้าง ในงาน E3 2012 ที่ผ่านมา ทาง Nintendo ก็ยังไม่เปิดเผยราคาของ Wii U ออกมา ถ้าดูจากรูปเกมของ Nintendo แล้ว ผู้เล่นอาจจะต้องเสียเงินค่าอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแลกกับรูปแบบการเล่นเกมที่มากขึ้นเช่นเดิม และดูจากความสามารถของเจ้า Gamepad ที่มีทั้งจอ Touch Screen, กล้อง และอื่นๆ ที่เกือบจะเทียบเท่าแทบเลตนั้น น่าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่า Controller เดิมๆ ที่เคยมี ยิ่ง Nintendo เน้นในเรื่องของ Party Game แล้ว การที่มี gamepad หนึ่งอันหรือสองอันนั้นอาจจะไม่เพียงพอ จากการคาดการณ์ของทาง Nikkei ได้ประเมินราคาเอาไว้ว่าจะอยู่ในราคา 30,000 เยน หรือประมาณ 12,000 บาท ซึ่งดูไม่ค่อยแพงเท่าไหร่ แต่จะเป็นราคานี้จริงรึเปล่า ถ้าเป็นราคานี้อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องจะมีอะไรบ้าง ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก อันนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ เราต้องมาดูกันว่าทาง Nintendo จะสามารถควบคุมเรื่องราคา ที่เป็นปัจจัยหลังของการตัดสินใจซื้อเครื่อง Console โดยเฉพาะประเทศโลกที่ 3 อย่างเราได้หรือไม่



     อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดทาง Sony และ Microsoft เกิดอยากจะเปิดตัว Console ตัวใหม่ออกมาเร็วๆ นี้ ความแรงของเครื่องมันต้องมากันแบบจัดเต็มถูกใจ Hardcore Gamer กันแน่นอน ถึง Wii U จะทำขุมพลังได้ดีกว่า PS3 และ Xbox 360 แต่มันก็ไม่มากนัก ถ้ามี PS4 หรือ Xbox ตัวใหม่ออกมา เรื่องที่จะแซะกลุ่ม Hardcore จาก Sony และ Microsoft คงจะเป็นเรื่องที่ยากพอควร แต่ถ้าเกิด Nintendo รีบดัน Wii U ให้สามารถวางจำหน่ายได้เร็วๆ นี้ ก็น่าจะสามารถโกยรายก้อนโตในช่วงแรกได้ เนื่องจากยังมีเกม Multiplatform อีกมากมายที่เตรียมลงบนเครื่อง PS3 และ Xbox 360  

     สุดท้ายนี้ถ้าจะให้ฟันธงว่า Wii U จะร่วงหรือจะรอด ผู้เขียนก็ยังคงฟันธงว่า "รอด" เนื่องจาก Nintendo นั้น มีกลุ่มเป้าหมายที่แยกจาก Sony และ Microsoft อย่างชัดเจน และเขายังคงสามารถหากลุ่มเป้าหมายเพิ่มได้ค่อนข้างง่ายจากรูปแบบการเล่นเกมอันหลากหลาย ดีไม่ดีอาจจะดึงผู้เล่นจาก Sony และ Microsoft ได้ด้วย รวมไปถึงการ Present สินค้าของทาง Nintendo นั้นถือว่าทำได้ดีมาก ผู้เขียนไม่สามารถอธิบายอย่างละเอียดได้ แต่การ Present ของ Nintendo นั้นมัน "ทำให้อยากได้มาครอบครอง" (แต่หลังจากได้นั้นจะผิดหวังหรือสมหวังรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ซื้อเครื่องไปแล้ว ซึ่งก็ถือว่าได้เม็ดเงินเข้าประเป๋าตังไปเรียบร้อย) แต่จะรอดแบบชิวๆ หรือจะรอดแบบเหนื่อยๆ เราต้องคอยติดตามกันต่อไป



สนับสนุนเนื้อหา




 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook